1. คำถามในห้องเรียน เทคโนโลยี 3 G 4G 5G คืออะไรและมีความแตกต่างกันอย่างไร
มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันเราหรือไม่
3G คืออะไร 3G สามารถรับส่งข้อมูลในความเร็วสูง ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้
อย่างรวดเร็ว และ มีรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ประกอบกับอุปกรณ์สื่อสารไร้สายในระบบ 3G สามารถให้บริการระบบเสียง และ แอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ เช่น
จอแสดงภาพสี, เครื่องเล่น mp3, เครื่องเล่นวีดีโอ การดาวน์โหลดเกม, แสดงกราฟฟิก และ การแสดงแผนที่ตั้งต่างๆ
ทำให้การสื่อสารเป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่สร้างความสนุกสนาน และ สมจริงมากขึ้น 3G ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายและคล่องตัวขึ้น โดย
โทรศัพท์เคลื่อนที่เปรียบเสมือน คอมพิวเตอร์แบบพกพา, วิทยุส่วนตัว และแม้แต่กล้องถ่ายรูป
ผู้ใช้สามารถเช็คข้อมูลใน account ส่วนตัว เพื่อใช้บริการต่างๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น self-care (ตรวจสอบค่าใช้บริการ), แก้ไขข้อมูลส่วนตัว และ
ใช้บริการข้อมูลต่างๆ เช่น ข่าวเกาะติดสถานการณ์, ข่าวบันเทิง, ข้อมูลด้านการเงิน, ข้อมูลการท่องเที่ยว และ ตารางนัดหมายส่วนตัว 4G คืออะไร เทคโนโลยี 4G เป็นเครือข่ายความเร็วสูงพิเศษ เป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล
สามารถใช้งานแบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ
ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง 4G จะสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เมกะไบต์ต่อวินาที สามารถให้บริการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านมือถือได้
หรือจะโหลดหนังมาชมบนโทรศัพท์มือถือ 4G ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนเครือข่ายที่กินพื้นที่กว้างก้อได้หรือจะทำเป็นเครือข่ายขนาดย่อมๆ
แบบ WLAN ได้อีกด้วย และราคาถูกด้วย 3G และ 4G ต่างกันตรงไหน เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีสื่อสารของ 4G เรื่องความเร็วเหนือกว่า 3G มาก
อังกฤษเร่งพัฒนาเทคโนโลยี '5G' คาดอีก 8 ปีได้ใช้
ฐบาลและภาคเอกชนอังกฤษทุ่มงบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาท สร้างศูนย์วิจัยเฉพาะด้านเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี 5G โดยคาดว่าในอีก 8 ปีข้างหน้า
ชาวอังกฤษจะได้ใช้งานเทคโนโลยี 5G อย่างแน่นอน
ในขณะที่ชาวอังกฤษ
ได้เริ่มใช้เทคโนโลยี 4จี ซึ่งเป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษมาได้สักระยะ
แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลอังกฤษและผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงในประเทศ
ก็ไม่ได้หยุดที่จะพัฒนาอยู่เพียงแค่นี้ เพราะล่าสุด
หน่วยงานด้านการพัฒนานวัตกรรมและทักษะทางธุรกิจของอังกฤษ
ได้มอบเงินทุนสนับสนุนให้แก่ University
of Surrey เพื่อจัดตั้งศูนย์วิจัยเฉพาะด้านเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี 5G โดยเฉพาะ
และเพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานให้แก่เครือข่ายของการให้บริการโทรศัพท์มือถือในอนาคต
ประโยชน์จากการใช้ 3G ไม่ได้มีเพียงแค่ดูหนัง ฟังเพลง
แต่หมายถึงการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของขอ
เด็กๆที่อยู่ห่างไกล
การติดตามข่าวสารการตลาดของเกษตรกร การบริการทางการแพทย์ในถิ่นธุรกันดาร
การทำธุรกรรมทางการเงินในชนบท
การใช้บริการอินเตอร์เน็ทของผู้ที่ไม่สามารถติดตั้งโทรศัพท์แบบมีสายได้
ความแตกต่างระหว่าง 2G 3G และ 4G
2G เริ่มแรกเป็นระบบเครือข่ายที่สามารถแลกเปลี่ยนการสนทนากันได้ทันที
แต่ได้เพียงแค่เสียง รับ-ส่งข้อมูลที่เป็นข้อความและภาพขาว-ดำ ได้ในจำนวนหนึ่ง รูปแบบข้อมูลเสียงเป็นโมโนโทน มี Application ง่ายเครื่องมือการสื่อสารระบบนี้ เช่น โทรศัพท์มือถือหน้าจอขาว-ดำ เป็นต้น และพัฒนาต่อมาเป็นระบบ 2.5และ2.75G ที่พัฒนา Application ที่หลากหลายมากขึ้น รับและส่งข้อมูลรูปแบบสีสันเสมือนจริง ระบบเสียงเป็นโพลีโฟนิกซ์และ mp3 เสมือนจริงตามลำดับ เข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ผ่านเครือข่ายผู้ให้บริการ รับ-ส่ง และดาวโหลดข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี GPRS และ EDGE ได้ แต่ไม่สามารถดาวโหลดข้อมูลที่มีขนาดและความละเอียดที่สูงมากได้ การสนทนายังเป็นรูปแบบแลกเปลี่ยนเสียงเหมือนเดิม
3G พัฒนามาจาก 2G เครื่องมือที่รองรับมี Application ที่หลากหลายมากขึ้น รับ-ส่ง และดาวโหลดหรืออัพโหลดข้อมูลได้จำนวนมากๆ และมีความละเอียดสูง ที่สำคัญคือสามารถสนทนาและประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ได้
โดยคู่สนทนาสามารถมองเห็นหน้ากันและกันขณะพูด เข้าถึงเครือข่ายโดยไม่ต้องสมัครหรือล็อกอิน( Always on )ได้ตลอดเวลาที่เปิดเครื่องมือใช้งาน และเชื่อมต่อเครือข่ายได้ทุกที่ทั่วโลก
4G พัฒนาต่อยอดจาก 3G เป็นการประยุกต์เอารูปแบบการสื่อสารทั้งหมดที่มีประสิทธิภาพมารวมกันเป็นระบบเดียว รูปแบบและระบบการทำงานบางอย่างเหมือนกับ 3G แต่มีการเพิ่มขีดความสามรถการรับส่งข้อมูล ดาวโหลด อัพโหลด
เข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์-เอ็กซ์เตอร์เน็ตได้มากกว่าระบบเดิม มีความเร็วสูงสุดเท่าที่เคยพัฒนามา จัดการข้อมูลที่มีความละเอียดและขนาดใหญ่มากๆ
ได้ทันทีและรวดเร็ว ดูภาพวีดีโอเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้สดๆ และละเอียดสมจริงไม่สะดุด ระบบ 4G นี้กำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นระบบสากลและเป็นรูปธรรมมากขึ้นในอนาคต
2.ความหมายของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information Systems) (MIS) เป็นระบบเกี่ยวกับการจัด หาคน หรือข้อมูลที่สัมพันธ์กับข้อมูล
เพื่อการดำเนินงานขององค์การ เช่น การใช้ MIS เพื่อช่วยเหลือกิจกรรมของลูกจ้าง
เจ้าของกิจการ ลูกค้า และบุคคลอื่นที่เจ้ามาเกี่ยวข้องกับองค์การ
การประมวลผลของข้อมูลจะช่วยแบ่งภาระการ ทำงานและยังสามารถนำ สารสนเทศมา
ช่วยในการตัดสินใจของผู้บริหาร หรือ MIS เป็นระบบซึ่งรวมความสามารถของผู้ใช้งานและคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศเพื่อการดำเนินงานการจัดการ
และการตัดสินใจในองค์การ หรือ MIS หมายถึงการเก็บรวบรวมข้อมูล การ ประมวลผล
และการสร้างสารสนเทศขึ้นมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจ การประสานงาน และการควบคุม
นอกจากนั้นยังช่วยผู้บริหาร และ พนักงานในการวิเคราะห์ปัญหา แก้ปัญหา
และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ โดย MIS จะต้องใช้อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ (Hardware) และ โปรแกรม (Software) ร่วมกับผู้ใช้ (Peopleware) เพื่อก่อให้เกิดความสำเร็จในการได้มาซึ่งสารสนเทศที่มีประโยชน์
3.ข้อมูลและสารสนเทศต่างกันอย่างไร
ข้อมูล หมายถึง ข้อมูลที่ยังไม่ได้ผ่านการประมวลผล ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินงานที่ให้ความสำคัญของความรวดเร็วและเก็บข้อมูล ข้อมูลจะต้องมีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน มีความสมบูรณ์ในระดับที่เหมาะสม อาจมีทั้งประเภทตัวเลข ข้อความ วันที่ รูปภาพ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ คะแนนของนักเรียน เป็นต้น
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ผลเกรดของนักเรียน
อัตราส่วนของนักเรียนกับอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น
4.องค์ประกอบซึ่งจะขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไม่ได้คือ
1. ฮาร์ดแวร์ หรือ
เครื่องคอมพิวเตอร์
ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบสารสนเทศหมายถึง
เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง
รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย เช่น
เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดตรวจ(Scanner)
2. ซอฟต์แวร์
เป็นองค์ประกอบที่สำคัญประการที่สองซึ่งก็คือลำดับขั้นตอนของคำสั่งที่จะสั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน เพื่อ
ประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการของการใช้งานลักษณะการใช้งานของซอฟต์แวร์ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้จะต้องติดต่อใช้งานโดยใช้ข้อความเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันซอฟต์แวร์มีลักษณะการใช้งานที่ง่ายขึ้น โดยมีรูปแบบการติดต่อที่สื่อความหมายให้เข้าใจง่าย
3. ข้อมูล
ข้อมูล
เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของระบบสารสนเทศ
การเก็บข้อมูลจากแหล่งกำเนิดข้อมูลจะต้องมีความถูกต้องมีการตรวจสอบแล้วเท่านั้นจึงจะมีประโยชน์
ข้อมูลจำเป็นจะต้องมีมาตรฐานเมื่อใช้งานในระดับกลุ่มหรือระดับองค์การข้อมูลต้องมีโครงสร้างในการจัดเก็บที่เป็นระบบระเบียบเพื่อการสืบค้นที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ
4. บุคลากร
บุคลากรในระดับผู้ใช้ ผู้บริหาร ผู้พัฒนาระบบ
นักวิเคราะห์ระบบ และนักเขียนโปรแกรม เป็นองค์ประกอบสำคัญ ใน
ความสำเร็จของระบบสารสนเทศบุคลากรมีความรู้
ความสามารถทางคอมพิวเตอร์มากเท่าใดโอกาสที่จะใช้งานระบบสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ได้เต็มศักยภาพและคุ้มค่ายิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ผู้ใช้มีโอกาสพัฒนาความสามารถของตนเองและพัฒนาระบบงานได้เองตามต้องการ
5. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ขั้นตอนการปฏิบัติงานของผู้ใช้หรือของบุคลากรที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อได้พัฒนาระบบงานแล้ว
ขณะที่ใช้งานก็จำเป็นต้องคำนึงถึงลำดับขั้นตอนของคนและความสัมพันธ์กับเครื่อง
ทั้งในกรณีปกติและกรณีฉุกเฉิน เช่น การบันทึกข้อมูล การประมวลผล
การปฏิบัติงานเมื่อเครื่องชำรุดหรือข้อมูลสูญหาย และ
การทำสำเนาข้อมูลสำรองเพื่อความปลอดภัย และการทำเอกสารคู่มือการใช้งานที่ชัดเจน
4.องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เป็นระบบสนับสนุนการบริหารงานการจัดการ
และการปฏิบัติการของบุคคลไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคลระดับกลุ่มหรือระดับองค์การไม่ใช่มีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้นแต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จของระบบอีกรวม 5 องค์ประกอบซึ่งจะขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไม่ได้คือ
1. ฮาร์ดแวร์ หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์
1. ฮาร์ดแวร์ หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์
ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบสารสนเทศหมายถึง
เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง
รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย เช่น
เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดตรวจ(Scanner)
2. ซอฟต์แวร์
เป็นองค์ประกอบที่สำคัญประการที่สองซึ่งก็คือลำดับขั้นตอนของคำสั่งที่จะสั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน เพื่อ
ประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการของการใช้งานลักษณะการใช้งานของซอฟต์แวร์ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้จะต้องติดต่อใช้งานโดยใช้ข้อความเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันซอฟต์แวร์มีลักษณะการใช้งานที่ง่ายขึ้น โดยมีรูปแบบการติดต่อที่สื่อความหมายให้เข้าใจง่าย
3. ข้อมูล
ข้อมูล
เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของระบบสารสนเทศ
การเก็บข้อมูลจากแหล่งกำเนิดข้อมูลจะต้องมีความถูกต้องมีการตรวจสอบแล้วเท่านั้นจึงจะมีประโยชน์
ข้อมูลจำเป็นจะต้องมีมาตรฐานเมื่อใช้งานในระดับกลุ่มหรือระดับองค์การข้อมูลต้องมีโครงสร้างในการจัดเก็บที่เป็นระบบระเบียบเพื่อการสืบค้นที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ
4. บุคลากร
บุคลากรในระดับผู้ใช้ ผู้บริหาร ผู้พัฒนาระบบ
นักวิเคราะห์ระบบ และนักเขียนโปรแกรม เป็นองค์ประกอบสำคัญ ใน
ความสำเร็จของระบบสารสนเทศบุคลากรมีความรู้ ความสามารถทางคอมพิวเตอร์มากเท่าใดโอกาสที่จะใช้งานระบบสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ได้เต็มศักยภาพและคุ้มค่ายิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ผู้ใช้มีโอกาสพัฒนาความสามารถของตนเองและพัฒนาระบบงานได้เองตามต้องการ
5. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ขั้นตอนการปฏิบัติงานของผู้ใช้หรือของบุคลากรที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อได้พัฒนาระบบงานแล้ว
ขณะที่ใช้งานก็จำเป็นต้องคำนึงถึงลำดับขั้นตอนของคนและความสัมพันธ์กับเครื่อง
ทั้งในกรณีปกติและกรณีฉุกเฉิน เช่น การบันทึกข้อมูล การประมวลผล
การปฏิบัติงานเมื่อเครื่องชำรุดหรือข้อมูลสูญห
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น